หงส์แดงอุ่นเครื่องเจ๊า 1-1 แอธ.บิลเบา

 
ผลเสมอกับ แอธเลติก บิลเบา 1-1 ในเกมอุ่นเครื่องที่ แอนฟิลด์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา คงทำให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้เห็นทั้งเรื่องดี และเรื่องแย่ในแมตช์นี้ โดยเฉพาะอาการบาดเจ็บของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อ “หงส์แดง” ก่อนเปิดซีซั่น



1) สามประสานแดนหน้าหงส์ร้อนแรง




การประสานงานกันระหว่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดิโอโก้ โชต้า และ ซาดิโอ มาเน่ เป็นสิ่งที่ทำให้ เดอะค็อป ใจชื้นได้ว่าการทำประตูจะไม่เป็นปัญหาสำหรับพวกเขาเมื่อเริ่มต้นฤดูกาลใหม่


ซาลาห์ ยังคงร้อนแรงที่กราบซ้ายเหมือนอย่างที่เคยเป็นมา ด้าน โชต้า เพรสซิงอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ขณะที่ มาเน่ หวือหวากับการกระชากลากเลื้อยและการผ่านบอลสร้างสรรค์โอกาสให้กับเพื่อนร่วมทีม


ประตูที่ทีมได้มายังเป็นการประสานงานร่วมกับระหว่าง มาเน่ กับ โชต้า จากช็อตดันขึ้นสูงเพื่อบีบพื้นที่แดนบน



2) เจ้าหนู เอลเลียตต์ เยือกเย็นเกินวัย


 
เอลเลียตต์ ทำผลงานได้น่าประทับใจมากๆ ตอนที่ย้ายไปเล่นแบบยืมตัวกับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา และหลายคนมองว่าเขากลับมาร่วมทีมในครั้งนี้ก็แค่ชั่วคราว ที่สำคัญคงจะโดนส่งไปเก็บเลเวลอีกครั้งแหงๆ


อย่างไรก็ตามจากผลงานของ ดาวเตะวัย 18 ปี ซึ่งเพิ่งจะขยายสัญญาระยะยาวกับสโมสรเมื่อเร็วๆ นี้ สุดยอดมากในช่วงปรีซีซั่น และนั่นคงทำให้ คล็อปป์ จะต้องคิดทบทวนให้ถ้วนถี่เกี่ยวกับสถานการณ์ของนักเตะรายนี้


บทบาทของ เอลเลียตต์ ในแดนกลางบอกเลยว่ายอดเยี่ยมเกินวัยจริงๆ เขาทำหน้าที่แบกภาระทั้งเกมรุกและเกมรับได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถเชื่อมเกมได้เนียนตา ที่สำคัญยังเล่นได้หลากหลายอีกด้วย



3) ฟานไดค์ พร้อมคืนสู่สนามอย่างเต็มตัว


เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กลับมาลงทำหน้าที่ประจำตำแหน่งตัวจริงของเขาอีกครั้ง โดยสภาพร่างกายของเจ้าตัวเห็นได้อย่างชัดเจนว่าฟิตสมบูรณ์เต็มที่แล้ว ดาวเตะชาวดัตช์ บัญชาเกมได้อย่างยอดเยี่ยม เต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง และเล่นได้อย่างเหนียวแน่นทำให้แนวรุกของ แอธเลติก บิลเบา แทบไม่มีโอกาสได้สร้างความอันตรายมากนัก ขณะที่เกมบุกเจ้าตัวก็มักจะขึ้นไปกดดันแนวรับคู่แข่งเวลาที่ทีมได้ลูกเซ็ตพีซและก็ทำได้ดีซะด้วย


อย่างไรก็ตาม คล็อปป์ ยังไม่เสี่ยงที่จะใช้งาน ฟาน ไดค์ เต็มเกม นั่นคือเหตุผลที่ทำให้เขาต้องเปลี่ยนตัว หลังเกมผ่านไป 70 กว่านาที แต่ผลงานของเขาในแมตช์นี้คงทำให้สาวก “เดอะ ค็อป” สบายใจได้เลยว่าพวกเขาจะได้เห็น เซนเตอร์แบ็กเลือดดัตช์ กลับมายื่นตระหง่านช่วยทีมตั้งแต่ต้นซีซั่น



4) อาการ ร็อบโบ้ น่าเป็นห่วง



แอนดี้ โรเบิร์ตสัน โชคร้ายได้รับบาดเจ็บข้อเท้าพลิกในจังหวะที่พยายามเข้าสกัดบอลในช่วงท้ายครึ่งแรกจนเจ้าตัวเล่นต่อไม่ไหวถูกทีมงานหิ้วปีกออกจากสนาม ซึ่งแน่นอนว่าอาการของ “ร็อบโบ้” ค่อนข้างน่ากังวลมากๆ


ร็อบโบ้ ยังคงต้องรอเช็คอาการบาดเจ็บอย่างละเอียดอีกครั้งแต่การออกจากสนามด้วยการลงน้ำหนักไม่เต็มที่ของเขาก็น่าเป็นห่วงเมื่อซีซันใหม่กำลังจะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 14 สิงหาคมนี้แล้ว



5) แอนฟิลด์ กลับมาคึกคักอีกครั้ง

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้เกมลูกหนังกร่อยไปนาน เมื่อไม่มีแฟนบอลเข้าไปชมในสนาม กระนั้นในสถานการณ์ปัจจุบันแม้การแพร่ระบาดยังคงมีอยู่ แต่ด้วยมาตรการและการฉีดวัคซีน ทำให้ตอนนี้ อังกฤษ ได้เปิดให้แฟนบอลกลับมาชมเกมในสนามได้แล้ว


วันอาทิตย์ที่ผ่านมาบรรดานักเตะลิเวอร์พูล คงหัวใจพองโตที่ได้เห็นเหล่าสาวก “เดอะ ค็อป” เข้ามาชมเกมอย่างอุ่นหนาฝาคั่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 ซึ่งแน่นอนว่านี่คือบรรยาศที่ทุกๆ คนเฝ้ารอมานานแสนนาน


อย่าลืมว่าความสำเร็จของ ลิเวอร์พูล ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา หนึ่งในส่วนสำคัญก็คือกองเชียร์พวกเขาแสดงให้เห็นถึงการกระตุ้นทีม ความเชื่อมั่น การส่งเสียงที่ดังลั่นจนทำให้คู่แข่งที่มาเยือนแอนฟิลด์ ขวัญหนีดีฟ่อมาแล้ว


นี่คือบรรยากาศที่ คล็อปป์ เคยออกมายอมรับว่ามีส่วนสำคัญต่อความสำเร็จของทีม และการขาดแฟนบอลไปก็ส่งผลต่อพลังในการเล่นของนักเตะเช่นกัน








เรื่อง/เรียบเรียง : แมนคูเนี่ยน








































































































































































ใส่ความเห็น